|
ทิพย์โอสถยาไทย ขอ ขอบคุณ ทุกๆ การสนับสนุนส่งเสริมจากภาครัฐ ในทุกกระบวนการ เพื่อผลิตภัณฑ์คุณภาพ เพื่อคุณ และ คนที่คุณรัก |
|
|
สรรพคุณสมุนไพรไทยไม่น้อยหน้าใครในโลก หากเรารู้วิธีใช้อย่างถูกวิธี ...เราใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต...คุณจึงมั่นใจได้ กับ ยาสมุนไพรไทยของทิพย์โอสถยาไทย |
สำนักงานใหญ่ : ทิพย์โอสถยาไทย 78/1 หมู่ 6 ถ.บ้านสิงห์-วัดแก้ว ต.บ้านฆ้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี 70120
โทร 02-173-3394 , 087-013-1861
|
|
|
Welcome to "ยาสมุนไพรทิพย์โอสถ สมุนไพรเพื่อชีวิตที่ดีกว่า" |
|
|
|
|
|
|
Up date !!! ..........เหตุการณ์โลกไซเบอร์ กับ ทิพย์โอสถยาไทย |
|
|
|
|
|
|
|
|
ออกทริป!!! เยี่ยมตัวแทนจำหน่าย .... ทิพย์โอสถยาไทยผู้นำสมุนไพร สู่สากล |
|
|
|
| | |
|
|
|
| |
|
|
ยาสมุนไพร รักษา อาการ เส้นตึง สมุนไพร แก้เส้นยึด สมุนไพรรักษาอาการนิ้วชามือชา สมุนไพร แก้ปวดขา สมุนไพรแก้ตกขาว สมุนไพร แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ สมุนไพร แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย สมุนไพรแก้ปวดเข่า ยาสมุนไพร รักษา อาการ ปวด ปวดหลัง ปวดหัว ปวดเมื่อย สมุนไพร แก้ปวด คอ ปวดบ่า ปวดไหล่ สรรพคุณ สมุนไพร อุ่นใจไร้ผลข้างเคียง รับรองโดย อย.
พืช ที่อาจจะเป็น พิษ ต้องพิจารณา ให้ดี เอามาฝาก |
พืชพิษ
ในสมัยก่อนมนุษย์รู้จักที่จะนำพืชมาใช้เพื่อดำรงชีวิต โดยการนำมาใช้เป็นอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค พืช สัตว์ และแร่ธาตุหลายชนิดได้มีการบันทึกถึงสรรพคุณในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และอีกหลายชนิดได้บันทึกถึงความเป็นพิษ พืชพิษเหล่านี้ได้มีการนำมาใช้เป็นประโยชน์ เช่น ใช้ล่าสัตว์ ฆ่าปลา หรือ นำมาใช้วางยาพิษ พืชพิษหลายชนิดถ้าใช้ในปริมาณน้อย ๆ ก็จะเป็นยารักษาโรคได้ เช่น เมล็ดแสลงใจในปริมาณน้อย ๆ จะเป็นยาเจริญอาหาร แต่ถ้าในปริมาณมาก จะเป็นพิษกระตุ้นระบบประสาท ทำให้ชัก และตายได้ เช่นเดียวกับพืชที่มีสารกลุ่มคาร์ดิแอคกลัยโคไซค์ ถ้าใช้ปริมาณน้อย ๆ จะทำให้หัวใจที่เต้นผิดปกติ เต้นได้ปกติขึ้น แต่ถ้าใช้ปริมาณมากจะทำให้หัวใจหยุดเต้นได้
ความเป็นพิษของพืช จะขึ้นกับปริมาณพืชที่รับประทานเข้าไป และความทนทานต่อสารพิษของแต่ละบุคคล โอกาสที่จะเกิดพิษในเด็กจะมีมากกว่าในผู้ใหญ่ ซึ่งเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก นอกจากนี้ขนาดของสารพิษที่ก่อให้เกิดความเป็นพิษในเด็กก็มีค่าต่ำกว่าในผู้ใหญ่ สาเหตุความเป็นพิษที่เกิดขึ้นในเด็ก เนื่องจากพืชมีดอก และผลสีสวยดึงดูดใจให้ลิ้มลอง ส่วนในผู้ใหญ่มักเกิดจากการรับประทานพืชที่ไม่รู้จักชื่อ หรือความเข้าใจผิดเนื่องจากพืชบางชนิดมีหลายชื่อ ชื่อพ้อง หรือการใช้สมุนไพรที่ไม่ถูกวิธีหรือเกินขนาดที่ควร ส่วนความเป็นพิษที่เกิดกับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์เคี้ยวเอื้องมักเกิดจากพืชพิษที่ขึ้นปะปนกับพืชที่ใช้เป็นอาหารของสัตว์ ความเป็นพิษนี้จะสร้างความสูญเสียอย่างสูง
ในประเทศไทยได้มีการบันทึกถึงความเป็นพิษจากพืชชนิดต่าง ๆ เช่น พิษจากการรับประทานเมล็ดทองหลางฝรั่งหรือโพธิ์ศรี เด็กที่รับประทานเข้าไปจะมีอาการแสบร้อนในคอ กระหายน้ำ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศรีษะ ถ่ายเหลว และตาแดง การรับประทานเหง้าดองดึง ทำให้มีอาการอาเจียนรุนแรงและเสียชีวิต การรับประทานฝักมันแกว ทำให้เกิดอาการช็อค หมดสติ และหยุดหายใจ การรับประทานเมล็ดมะกล่ำตาหนู ทำให้เกิดอาการอาเจียนรุนแรง และชัก เป็นต้น
ฉะนั้นประชาชนคนไทยทุกคนควรจะต้องเรียนรู้ และศึกษาอย่างถ่องแท้ถึงชนิดและลักษณะของพืชพิษ สารสำคัญที่เป็นพิษ วิธีการป้องกันและรักษาขั้นเบื้องต้น เพื่อจะช่วยป้องกันการเกิดความเสียหาย และการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น
การจำแนกกลุ่มของพืชพิษ
ในการจำแนกกลุ่มของพืชพิษทำได้หลายวิธี แต่การแบ่งตามผลต่อระบบร่างกายของคนจะเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้เข้าใจได้ง่าย สามารถแบ่งพืชพิษออกได้ 5 กลุ่ม ได้แก่
1. พืชที่มีผลต่อระบบทางเดินอาหาร
2. พืชที่มีผลต่อระบบเลือดและหัวใจ
3. พืชที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง
4. พืชที่ระคายเคืองต่อผิวหนัง
5. พืชที่มีผลต่อระบบอื่น ๆ
1. พืชที่มีผลต่อระบบทางเดินอาหาร แบ่งออกได้ 4 กลุ่มย่อย ได้แก่
1.1 กลุ่มที่มีผลระคายเคืองต่อเยื่อบุปากและลำคอ : พืชเหล่านี้จะออกฤทธิ์ทันที ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดบริเวณปากและคอ
1.2 กลุ่มที่มีผลระคายเคืองต่อเยื่อบุผนังกระเพาะอาหาร พืชเหล่านี้จะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารอักเสบ
1.3 กลุ่มที่มีผลระคายเคืองต่อเยื่อบุลำไส้ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย และ ถ้ารับประทานปริมาณมากจะมีผลต่อระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย
1.4 กลุ่มที่มีผลทำให้กระเพาะและลำไส้อักเสบอย่างช้า ๆ หลังจากทานพืชเหล่านี้แล้ว นาน 1 ชั่วโมง หรืออาจนานถึง 2 วัน จึงจะเกิดพิษ
1.1 พืชที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุปากและลำคอ
พืชเหล่านี้มักจะมีผลึกของแคลเซียมออกซาเลทอยู่ภายในเซลล์ในสภาพเป็นกลุ่มที่เรียกว่า raphidesซึ่งเมื่อถูกน้ำ ผลึกนี้จะแตกออก ทำให้ปวดแสบปวดร้อนภายในปาก นอกจากนี้พืชกลุ่มนี้บางชนิดยังมีสารพิษประเภทอื่นอีก เช่น เรซิน และโปรโทอะนีโมนีนซึ่งจะทำให้เกิดเป็นตุ่มพุพอง บริเวณริมฝีปาก ลิ้น และบริเวณคอหอย ลิ้นเคลื่อนไหวลำบากทำให้กลืนอาหารยาก พูดไม่ถนัด อาการเหล่านี้อาจจะคงอยู่เป็นเวลาหลายวัน บางครั้งจะมีอาการอาเจียนร่วมด้วย
ตัวอย่างพืชกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่พบได้ในวงศ์ Araceaeได้แก่
กระดาด Alocasia spp.
บุก Arisaema spp.
บอนสี Caladium spp.
บอน เผือก Colocasia spp.
สาวน้อยประแป้ง หรือ อ้ายใบ้ Dieffenbachia spp.
พลูฉีก Monstera spp.
ต้นอ้ายใบ้หรือว่านหมื่นปี (Dumbcane) นอกจากทำให้ระคายเคืองต่อเยื่อบุปากและคอแล้วยังอาจทำให้การพูดผิดไปได้ พืชต้นนี้มีสารก่อเกิดพิษ คือ แคลเซียมออกซาเลท และ เอนไซม์ที่สามารถย่อยโปรตีนได้ ชื่อ dumbain
การรักษา
ล้างปาก รับประทานยาลดกรดครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ ทุก ๆ 2 ชั่วโมง และทานอาหารเหลวจนกว่าอาการจะทุเลาลง แต่ถ้าผู้ป่วยกลืนพืชพิษเข้าไปไม่ควรทำให้อาเจียน เพราะจะทำให้สารพิษสัมผัสเยื่อบุปากและคออีกครั้ง ควรส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว เพื่อล้างท้อง และให้การรักษาตามอาการ
1.2 พืชที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุผนังกระเพาะอาหาร
พืชพวกนี้เมื่อกินเข้าไป จะทำให้เกิดการอาเจียนและท้องเสียเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะว่าพืชเหล่านี้มีสารพิษที่เป็นแอลคาลอยด์ชื่อ lycorine, crinamine, lycoramine ซึ่งมีผลไปกระตุ้นศูนย์การอาเจียนที่สมองทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย พืชเหล่านี้เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยงด้วย มีผลต่อทางเดินอาหาร หัวใจ และระบบประสาท ทำให้เซื่องซึม ชัก และอาจจะทำลายเนื้อเยื่อตับด้วย พืชพิษเหล่านี้จะพบได้ในวงศ์ Amaryllidaceae ตัวอย่างพืชเหล่านี้ ได้แก่ พืชในสกุลพลับพลึง Crinum และ Narcissus เป็นต้น
การรักษา
ไม่แนะนำการทำให้อาเจียนเพราะคนไข้จะมีอาการอาเจียนอยู่แล้ว ควรจะล้างท้อง และใช้ถ่าน (activated charcoal) ในการดูดพิษแอลคาลอยด์ และควรให้เกลือแร่ป้องกันการสูญเสียน้ำ และแร่ธาตุ
1.3 พืชที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุผนังลำไส้
พืชเหล่านี้จะทำให้เกิดอาการอาเจียน ท้องเสีย หลังจากรับประทานเข้าไปภายใน 1 ชั่วโมง สารพิษที่พบในพืชกลุ่มนี้ ได้แก่ ซาโปนิน เรซิน โปรโทอะนีโมนีน และสารอื่น ๆ
สารพิษกลุ่มซาโปนิน
ผู้ป่วยที่รับประทานพืชพิษที่มีซาโปนินจะทำให้เกิดระคายเคืองต่อเยื่อบุหรือทำให้อักเสบได้ แล้วมีการดูดซึมสารพิษเข้าสู่กระแสเลือด มีผลทำให้เม็ดเลือดแดงแตก ผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ และทำให้เกิดอาการพิษต่อระบบไหลเวียนโลหิต และชักได้
ตัวอย่างพืชที่มีสารพิษซาโปนิน
ชื่อไทย ชื่อพฤกษศาสตร์ วงศ์ ส่วนที่เป็นพิษ มะเนียงน้ำ Aesculus hippocastanum Hippocastanaceae ผล เทียนหยด Duranta repens Verbenaceae ผล มันแกว Pachyrhizus erosus Fabaceae เมล็ด สกุลหางไหลแดง Derris spp. Fabaceae เมล็ดและราก ก้ามปู Samanea saman Fabaceae เมล็ดและเปลือกต้น สกุลมะคำดีควาย Sapindus spp. Sapindaceae ผล
การรักษา
ล้างท้อง ให้ยาเคลือบกระเพาะและลำไส้ เช่น น้ำนม ไข่ขาว และให้เกลือแร่ป้องกันการสูญเสีย เกลือแร่
พืชพิษกลุ่มอื่น ๆ ที่มีผลต่อเนื้อเยื่อบุกระเพาะและลำไส้
สารพิษในกลุ่มนี้ยังไม่ทราบสูตรโครงสร้างที่แน่นอน พืชพิษที่เป็นปัญหาในกลุ่มนี้คือ มะเยา (tung tree) ผลของมะเยามียางซึ่งเป็นพิษ ซึ่งพืชพิษกลุ่มนี้อาจเป็นพิษถึงตายได้ เนื่องจากการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ พืชพิษในกลุ่มนี้ ได้แก่
ชื่อไทย ชื่อพฤกษศาสตร์ วงศ์ ส่วนที่เป็นพิษ มะเยา Aleurites fordii Euphorbiaceae น้ำยาง โพธิสัตว์ Aleurites moluccana Euphorbiaceae น้ำยาง บานบุรีสีเหลือง Allamanda cathartica Apocynaceae น้ำยาง
1.4 พืชที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะและลำไส้อย่างช้า ๆ
พืชพิษกลุ่มนี้เมื่อรับประทานเข้าไประยะเวลาหนึ่ง จึงจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร พืชบางชนิดอาจใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง ตัวอย่างเช่น พืชที่มีสารพิษ toxalbumins หรืออาจจะต้องใช้เวลามากกว่านั้น เป็นระยะเวลา 1-2 วัน
พืชพิษกลุ่มนี้แบ่งออกได้ 4 กลุ่มย่อย ดังนี้
1. กลุ่มที่มีสารเลคติน
2. กลุ่มที่มีสารสเตียรอยด์แอคคาลอยด์
3. กลุ่มที่มีสารออกซาเลท
4. กลุ่มที่มีสารโคชิซีน
1. กลุ่มที่มีสารเลคติน
พืชพิษกลุ่มนี้จะมีสารเลคติน (เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง) ซึ่งถูกดูดซึมได้อย่างช้า ๆ ในระบบทางเดินอาหารที่อักเสบเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดพิษทั่วร่างกาย ผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดท้อง อ่อนเพลีย จุกเสียด กระหายน้ำ ปวดศรีษะ อาจถ่ายเป็นเลือด ความดันเลือดต่ำ และอัมพาต
ตัวอย่างพืชพิษ ได้แก่
ชื่อไทย ชื่อพฤกษศาสตร์ วงศ์ ส่วนที่เป็นพิษ สารพิษ มะกล่ำตาหนู Abrus precatorius Fabaceae เมล็ด abrin ละหุ่ง Ricinus communis Euphorbiaceae เมล็ด ricin โพธิ์ฝรั่ง Hura crepitans Euphorbiaceae เมล็ด hurinและcrepitin สบู่ดำ Jatropha curcas Euphorbiaceae เมล็ด curcin
การรักษา
ทำให้คนไข้อาเจียนและรับประทานยาเคลือบกระเพาะอาหารและลำไส้ และรีบส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เพื่อล้างท้อง หรือให้รับประทานยาถ่ายเพื่อลดการดูดซึมสารพิษ
2. กลุ่มที่มีสารสเตียรอยด์แอลคาลอยด์
สารสเตียรอยด์แอลคาลอยด์ที่เป็นพิษ ได้แก่ สารโซลานีนซึ่งอยู่ในรูปกลัยโคไซด์ โดยทั่วไปจะถูกดูดซึมได้น้อย แต่ถ้าผนังกระเพาะและลำไส้อักเสบจึงจะถูกดูดซึมเข้าไปสู่กระแสเลือดได้ สารโซลานีนก่อเกิดพิษน้อยในผู้ใหญ่ โดยทั่วไปจะระคายเคืองต่อกระเพาะและลำไส้ ทำให้ปวดศีรษะและเซื่องซึม พืชในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่อยู่ในวงศ์มะเขือ Solanaceae ผลของพืชเหล่านี้มักจะมีสารพิษ โดยเฉพาะพวกโทงเทง และหญ้าต้อมต๊อก ตัวอย่างพืชกลุ่มนี้
ชื่อไทย ชื่อพฤกษศาสตร์ ส่วนที่เป็นพิษ ราตรี Cestrum nocturnum ผลดิบ โทงเทง Physalis spp. ผลดิบ มะเขือขื่น Solanum aculeatissimum ผลดิบ มะแว้งนก หรือ หญ้าต้อมต๊อก Solanum nigrum ผลดิบ มันฝรั่ง Solanum tuberosum ต้นอ่อนที่กำลังงอก
3. กลุ่มที่มีกรดออกซาลิค
สารพิษ กรดออกซาลิค ซึ่งในปริมาณน้อยจะไม่เป็นพิษ ถ้าในปริมาณมากจะทำให้เกิดอาการคัน สารนี้มีฤทธิ์ระคายเคืองต่อผนังกระเพาะลำไส้ และจะถูกดูดซึมผ่านผนังที่อักเสบทำให้เกิดเป็นแคลเซียมออกซาเลท ซึ่งมีผลทำให้ปริมาณแคลเซียมอิออนลดลง ซึ่งภาวะเช่นนี้จะมีผลต่อการทำงานของหัวใจ และประสาทส่วนกลาง ไตพิการ เนื่องจากมีการตกตะกอนของแคลเซียมออกซาเลท ตัวอย่างพืชพิษกลุ่มนี้
ชื่อไทย ชื่อพฤกษศาสตร์ วงศ์ ส่วนที่เป็นพิษ โกฏฐ์น้ำเต้า Rheum rhaponticum Polygonaceae ใบและก้านใบ สกุลผักกาดส้ม Rumex acetosa Polygonaceae ใบ เถาคันแดง Parthenocissus quinquefolia Vitidaceae ผล
4. กลุ่มที่มีสารโคชิซิน
สารโคชิซิน เป็นสารพิษที่มีฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลส์ ความเป็นพิษของสารนี้ เนื่องจากมีการสะสม สารนี้อาจเป็นพิษถึงตายได้ เนื่องจากระบบหายใจและระบบหมุนเวียนของเลือดล้มเหลว เกิดการสูญเสียน้ำ ตัวอย่างพืชกลุ่มนี้ ได้แก่ ดองดึงหัวขวาน (Gloriosa superba วงศ์ Liliaceae) ทุกส่วนของพืชเป็นพิษ
การรักษา
รีบส่งโรงพยาบาลทันทีเพื่อป้องกันการช็อค และให้การรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น
2. พืชที่มีพิษต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ
พืชในกลุ่มนี้จะมีผลต่อการเต้นและการบีบตัวของหัวใจ และมีผลต่อเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ พืชพิษกลุ่มนี้แบ่งออกได้ 2 กลุ่ม ดังนี้
2.1 พืชที่มีสารกลุ่มคาร์ดิแอคกลัยโคไซด์
พืชกลุ่มนี้จะมีพิษเมื่อรับประทานเกินขนาด ส่วนใหญ่จะเกิดพิษกับเด็ก เนื่องจากรับประทานผลหรือดอกของพืชพิษเหล่านี้ ซึ่งมักจะมีสีสวย จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุปาก และกระเพาะอาหาร เกิดอาการอาเจียน ท้องเดิน ปวดศรีษะ และปวดท้อง หลังจากสารพิษถูกดูดซึมเข้าเส้นเลือด จะไปกระตุ้นหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นและเต้นผิดปกติ อาการดังกล่าวอาจอยู่ได้นานถึง 2-3 อาทิตย์ ตัวอย่างพืชกลุ่มนี้ที่พบได้ในประเทศไทย เป็นพืชในวงศ์ Apocynaceae ซึ่งจะมียาง ส่วนที่เป็นพิษพบได้ทุกส่วน
ชื่อไทย ชื่อพฤกษศาสตร์ ยี่โถ Nerium indicum รำเพย Thevetia peruviana บานบุรีสีเหลือง Allamanda cathartica ชวนชม Adenium obesum
2.2 พืชที่มีสารไซยาโนจินิคกลัยโคไซด์
พืชที่มีสารไซยาโนจินิคกลัยโคไซด์ เมื่อรับประทานเข้าไปจะสลายตัวให้กรดไฮโดรไซยานิค ซึ่งจะมีผลต่อเอนไซม์ที่เกี่ยวกับการจับออกซิเจน จะทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน คนไข้จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน หายใจลำบาก กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย กล้ามเนื้อกระตุก มึนงง ไม่รู้สึกตัว ชักก่อนที่จะหมดสติ สารไซยาโนจินิคกลัยโคไซด์เป็นสารที่สลายตัวได้เมื่อถูกความร้อน ฉะนั้นพืชเหล่านี้ถ้าผ่านกระบวนการใช้ความร้อน ไม่ว่าจะเป็นการต้ม เผา ปิ้ง ก็จะรับประทานได้ ตัวอย่างของพืชกลุ่มนี้
ชื่อไทย ชื่อพฤกษศาสตร์ วงศ์ มันสำปะหลัง Manihot esculenta Euphorbiaceae กระ Elateriospermum tapos Euphorbiaceae ไฮแดรนเยีย Hydrangea macrophylla Hydrageaceae
3. พืชที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง
พืชที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลางแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
3.1 กลุ่มที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง (CNS depressants)
3.2 กลุ่มที่มีฤทธิ์ทำให้ชัก (convulsants)
3.3 กลุ่มที่มีฤทธิ์ทำให้ประสาทหลอน (hallucinogens)
3.1 กลุ่มที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง
พืชส่วนใหญ่ไม่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาทเพียงอย่างเดียว แต่อาจเป็นพิษต่ออวัยวะอื่น ๆ อีกด้วย สารพิษที่พบว่ามีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ได้แก่ andromedotoxin, veratrine, solanine (พบได้ในพืชวงศ์ Solanaceae) และ soluble oxalate
3.2 กลุ่มที่มีฤทธิ์ทำให้ชัก
การเกิดอาการชัก มักเกิดหลังจากประสาทถูกกระตุ้น กล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็ง กระตุก คนไข้อาจตายเนื่องจากระบบหายใจล้มเหลว ตัวอย่างพืชพิษกลุ่มนี้
ชื่อไทย ชื่อพฤกษศาสตร์ วงศ์ ส่วนที่เป็นพิษ สารพิษ เลี่ยน Melia azedarach Meliaceae ผล meliatoxin แสลงใจ Strychnos nux-vomica Loganiaceae เมล็ด strychnine, brucine
3.3 กลุ่มที่มีฤทธิ์ทำให้ประสาทหลอน
ตัวอย่างพืชกลุ่มนี้
ชื่อไทย ชื่อพฤกษศาสตร์ วงศ์ ส่วนที่เป็นพิษ สารพิษ กัญชา Cannabis sativa Cannabinaceae ช่อดอกตัวเมียและใบ tetrahybrocannabinol จันทน์เทศ Myristica fragrans Myristicaceae รก และเมล็ด myristicin ลำโพง Datura alba Solanaceae เมล็ดและใบ tropane alkaloids Peyote Lophophora williamsii Cactaceae ทั้งต้น mescaline
4. พืชที่ระคายเคืองต่อผิวหนัง
ส่วนใหญ่พืชที่ระคายเคืองต่อผิวหนังมักจะมีหนาม ขน ที่แหลมคม หรือมียางที่เป็นพิษ เมื่อผิวหนังสัมผัสถูกพืชพิษเหล่านี้จะมีอาการเจ็บปวด บวม หรืออักเสบ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อในเวลาต่อมา
สารพิษในกลุ่มนี้จะพบได้ในส่วนใบ เปลือกต้น น้ำยาง ลำต้น ดอก ผล ขน และละอองเกสร ความเป็นพิษมากน้อยของพืชกลุ่มนี้ขึ้นอยู่กับบุคคลที่สัมผัส ระยะเวลา และฤดูกาลของพืช พืชในกลุ่มนี้แบ่งออกได้ ดังนี้
4.1 พืชที่มีหนามหรือขน และมีสารพิษ ได้แก่
ชื่อไทย ชื่อพฤกษศาสตร์ วงศ์ หมามุ่ย Mucuna pruriens Fabaceae กะลังตังช้าง Laportea bulbifera Urticaceae ตำแยตัวเมีย Laportea interrupta Urticaceae ตำแยช้าง Girardinia heterophylla Urticaceae
พืชในวงศ์ Urticaceae มีขนพิษ ซึ่งภายในขนจะมี protoplasm เวลาที่ผิวหนังสัมผัสกับพืชเหล่านี้ ปลายยอดของขนจะแตกออกและฉีดสารพิษออกมาทำให้ผิวหนังบวมแดง แสบคันและปวด สารพิษเหล่านี้ได้แก่ histamine, acetylcholine, 5-hydroxytryptamine, กรดมด และกรดน้ำส้ม เป็นต้น
การรักษา
จะต้องกำจัดขนพิษเหล่านั้นออกไป โดยใช้เทียนไขลนไฟให้อ่อนตัว คลึงบริเวณที่ถูกขนพิษ หรือใช้ข้าวเหนียวนึ่งสุก ปั้นคลึงจนเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาคลึงบริเวณที่ถูกขนพิษให้ทั่วเพื่อให้ขนพิษติดขี้ผึ้งหรือข้าวเหนียวออกมา แล้วทาด้วยยาคาลาไมน์ หรือครีมสเตียรอยด์
4.2 พืชที่มียาง
ยางที่เป็นพิษมีได้ 2 ลักษณะ คือยางขาวและยางใส พืชที่มียางขาว พบได้ในวงศ์ Euphorbiaceaeโดยเฉพาะในสกุล Euphorbia ตัวอย่างเช่น สลัดได (E. antiquorum), ส้มเช้า (E. ligularia), โป้ยเซียน (E. milii) และพญาไร้ใบ (E. tirucalli) เป็นต้น ส่วนพืชที่มียางใสพบได้ในพืชสกุล Jatropha ได้แก่ สบู่ดำ (J. curcas), สบู่แดง (J. gossipifolia), ฝิ่นต้น (J. multifida), หนุมานนั่งแท่น (J. podagrica) และพืชวงศ์ Araceae เช่น บอน (Colocasia esculenta var. aquatilis), เผือก (C. esculenta), สาวน้อยประแป้ง (Dieffenbachia seguine), กระดาด (Alocasia indica), กระดาดแดง (A. indica var. metallica), กระดาดดำ (A. macrorhiza), พลูฉีก (Monster adeliciosa) ถ้าสัมผัสถูกพืชที่มียางจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เป็นผื่นแดง ผิวหน้าบวม และอาจจะมีการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้
การรักษา
ในกรณีที่สัมผัสกับน้ำยางใสให้ล้างด้วยน้ำและสบู่ แต่ถ้าถูกน้ำยางขาวซึ่งล้างด้วยน้ำและสบู่ไม่ออกให้ล้างหรือเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ แล้วทาด้วยคาลาไมด์ และรับประทานยาแก้แพ้ ควรประคบบริเวณที่มีอาการด้วยน้ำเย็นจัดประมาณครึ่งชั่วโมง ถ้ายางเข้าตาควรล้างตาทันทีด้วยน้ำยาล้างตา หยอดตาด้วยยาหยอดตาที่มีตัวยาเป็นสเตียรอยด์ แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาล
4.3 พืชที่มีเอนไซม์
ตัวอย่างเช่น bromelin พบในสับปะรด จะทำให้เกิดการระคายเคืองผิวเล็กน้อย
4.4 พืชที่มี calcium oxalates
ได้แก่พืชวงศ์ Araceae พืชเหล่านี้มักจะมีผลึกของแคลเซียมออกซาเลทอยู่ภายในเซลล์ในสภาพเป็นกลุ่มที่เรียกว่า raphides ซึ่งถ้ารับประทานก็จะเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหาร และถ้าสัมผัสก็จะทำให้เกิดการระคายเคือง พืชเหล่านี้ ได้แก่ กระดาด Alocasia spp., บุก Arisaema spp., บอนสี Caladium spp., บอน, เผือก Colocasiaspp., สาวน้อยประแป้ง หรือ อ้ายใบ้ Dieffenbachia spp., พลูฉีก Monstera spp.
|
โดย พืช เบอร์โทรศัพท์. 0870131861 2013-10-06 11:16:57 [IP : 171.7.81.xxx] |
|
Cavour Hotel Milan is another good hotels. Jun 6 Batch that we get 3rd thererrrs r N Digitizing is the ideal Digitization organization of embelleshment layout and then mp3 digitizing as well as the service can provide each products Appliance Embroidering Digitizing, Adhesive Digitizing.In 1994 Marc Jacobs joined Lv since their Cosmetic Producer and even develop the Initialed or monogrammed Vernis set, embossed certain placed in a range of hues. Certain elect to accept their own hairsdloss venture while others mask them with hair, a terrific way to, and connections.Coach Purses Is "stuck" acquiring the technologically advanced retain when your expected receiver and you may appearance and feel susceptible about expend that permits you to around reimburse. To avoid being in be successful, although not losing products you could possibly feel dissapointed eventually. These coupons are provided online by sending an e-mail for the customers or is often availed through visiting discounted coach coupons websites. As individuals fret additional and a lot more concerning the ozone hole and also warmth, mesh tarps are an outstanding implies to remove the tough sun's rays when utilized as filter covers.Burberry Outlet Due to the fact mesh tarps are found in the impressive array of colours, they can make beautiful patio covers and shades to the lawn.The finesse of these designer discount Gucci shoes can be extremely appealing and it is straightforward to get tempted into grabbing a pair which won't even fit well. |
|
Stay with this guys, you're heniplg a lot of people. |
By Staysha เบอร์โทรศัพท์. LZH02x5e1ChT 2014-01-15 13:47:53 [IP : 83.84.16.xxx] |
|
I am totally wowed and prareped to take the next step now. |
By Maverick เบอร์โทรศัพท์. MfF9ApwD 2014-01-16 22:28:16 [IP : 42.157.0.xxx] |
|
By Char เบอร์โทรศัพท์. aWd8DVJMjuV 2014-01-30 20:18:33 [IP : 62.45.7.xxx] |
|
By Jodi เบอร์โทรศัพท์. xOF2wx7J 2014-04-13 21:19:58 [IP : 217.109.140.xxx] |
|
การแสดงความคิดเห็นใดๆ ขอให้ใช้ถ้อยคำสุภาพ และความคิดเห็นของท่านมีผล ต่อการรักษา อาการเจ็บป่วย ของผู้อื่น โปรดใช้ความระมัดระวังให้มาก
[ ปิดหน้านี้ ]
[ กลับหน้าเดิม ]
|
|
โครงการสัมมนาเผยแพร่ผลการเจรจา การปรับกฎเกณฑ์การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ยาแผนโบราณ |
และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและรับฟัง |
ความเห็นเกี่ยวกับการจัดทำเขตการค้าเสรี ประจำปีงบประมาณ 2555 |
โดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา |
" บรรยากาศการสัมมนาที่โรงแรม ริชมอน " |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ทิพย์โอสถยาไทย...ขอเป็นแรงใจสนับสนุนสมุนไพรไทย...ให้ก้าวสู่ประชาคมอาเชียน http://www.thiposot.com/ | |
ห้องสมุด รูปภาพสมุนไพร : ทิพย์โอสถยาไทย >>>>>>>สมุนไพรหน้าที่ 1 สมุนไพรหน้าที่ 2 สมุนไพรหน้าที่ 3 สมุนไพรหน้าที่ 4 สมุนไพรหน้าที่ 5 สมุนไพรหน้าที่6 สมุนไพรหน้าที่ 7 สมุนไพรหน้าที่ 8 สมุนไพรหน้าที่ 9 สมุนไพรหน้าที่ 10 สมุนไพรหน้าที่ 11 สมุนไพรหน้าที่ 12 สมุนไพรหน้าที่ 13 สมุนไพรหน้าที่ 14 สมุนไพรหน้าที่ 15 สมุนไพรหน้าที่ 16 สมุนไพรหน้าที่ 17 สมุนไพรหน้าที่ 18 สมุนไพรหน้าที่ 19 สมุนไพรหน้าที่ 20 สมุนไพรหน้าที่ 21 สมุนไพรหน้าที่ 22 สมุนไพรหน้าที่ 23 สมุนไพรหน้าที่ 24 สมุนไพรหน้าที่ 25 สมุนไพรหน้าที่ 26 สมุนไพรหน้าที่ 27 สมุนไพรหน้าที่ 28 สมุนไพรหน้าที่ 29 สมุนไพรหน้าที่ 30 สมุนไพรหน้าที่ 31 สมุนไพรหน้าที่ 32 สมุนไพรหน้าที่ 33 สมุนไพรหน้าที่ 34 สมุนไพรหน้าที่ 35 สมุนไพรหน้าที่ 36 สมุนไพรหน้าที่ 37 สมุนไพรหน้าที่ 38 สมุนไพรหน้าที่ 39 สมุนไพรหน้าที่ 40 สมุนไพรหน้าที่ 41 สมุนไพรหน้าที่ 42 สมุนไพรหน้าที่ 43 สมุนไพรหน้าที่ 44 |
|
|
|
|
|
ทิพย์โอสถยาไทย รับผลิตยาสมุนไพร ยาแผนโบราณ สมุนไพรน้ำ และอาหารเสริม เครื่องสำอางค์คุณภาพสูง ได้มาตรฐานโรงงานอุตสาหกรรม ภายใต้แบรนด์ของคุณ เพื่อตอบสนองการเติบโตของธุรกิจด้านสุขภาพ ทิพย์โอสถยาไทยมีกำลังการผลิตที่เพียพอต่อการสนองต่อความต้องการของตลาดที่จะมีการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสำเร็จให้แก่คุณ เดินไปพร้อมกับการเติบโตทางธุรกิจของคุณ ด้วยมาตรฐานกระบวนการผลิตที่คุณมั่นใจได้ในทุกขั้นตอนการผลิต |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ชื่อสมุนไพร : ยาว่านชักมดลูก
ผสมสมุนไพร Details : สรรพคุณ - ช่วยกระชับช่องคลอดภายในสตรี - ทำให้มีอารมณ์ทางเพศสมบูรณ์ - ดับกลิ่นปาก |
|
ชื่อสมุนไพร : ยาฟ้าทะลายโจร ผสมสมุนไพรDetails : สรรพคุณ -แก้ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ -แก้ไอ เจ็บคอ คออักเสบ ต่อมทอนซิล หลอดลมอักเสบ ขับเสมหะ -แก้กระเพาะลำไส้อักเสบ |
|
ชื่อสมุนไพร : ขมิ้นชันผสมสมุนไพร Details : สรรพคณ - ขมิ้นชันมีวิตามิน เอ, ซี, อี ลดไขมันในตับ สมานแผลภายในกระเพาะอาหาร ช่วยย่อยอาหาร ต้านอนุมูลอิสระป้องกันมะเร็งตับ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวหนัง |
|
ชื่อสมุนไพร : ยาหอม ทิพย์โอสถ Details : สรรพคุณ
-แก้อาการเป็นลม เช่น เป็นลมหน้ามืดตาลาย ลมสตรีมีครรภ์
-ปวดหัวเวียนศีรษะ หรืออาการคลื่นไส้ อาเจียน -แก้อาการเป็นลมอย่างรุนแรง |
|
ชื่อสมุนไพร : ยาธรณีสัณฑะฆาต
Details : สรรพคุณ - แก้กษัยเส้น เส้นเอ็นแข็งกระด้าง เส้นตึง เส้นยึด มือเท้าชา ปวดเส้นเอ็น ปวดหลัง ไขข้ออักเสบ อัมพฤกษ์ เบื่ออาหาร - แก้ปวดศีรษะไมแกรน |
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
| |
|