อาการเลือดกำเดาไหล สาเหตุเกิดจากอะไร วันนี้ทิพย์โอสถ ขอนำสาระดีดี เกี่ยวกับ อาการ ดังกล่าวนี้ คะ
เลือดกำเดาเกิดจากหลอดเลือดฝอยในเยื่อเมือกบุโพงจมูกแตก หลอดเลือดฝอยเหล่านี้จะแตกได้ง่ายเพราะเยื่อเมือกบริเวณนี้จะบาง ดังนั้นเมื่อเยื่อเมือกได้รับการระคายเคือง บาดเจ็บ อักเสบ แห้ง บวม มีแผล หรือมีความดันในหลอดเลือดสูงขึ้น หลอดเลือดเหล่านี้จะแตกได้ง่าย ซึ่งก่อให้เกิดเลือดออกทางจมูกที่เราเรียกว่า เลือดกำเดา
โดยทั่วไป เลือดกำเดาจะหยุดได้เองในระยะเวลาประมาณ 15-30 นาที แต่ถ้าเลือดอออกมาก ออกไม่หยุด ออกบ่อย โดยเฉพาะเมื่อมีโรคประจำตัว ควรต้องรีบพบแพทย์ หรือไปโรงพยาบาลฉุกเฉินขึ้นกับความรุนแรงของอาการเลือดออก
สาเหตุมีเลือดกำเดาออกมีมากมาย ขอแบ่งเป็น เลือดกำเดาออกเป็นครั้งคราว และเลือดกำเดาออกบ่อย อย่างไรก็ตามบางสาเหตุ ส่งผลให้เลือดกำเดาออกได้ทั้งเป็นครั้งคราว และออกบ่อย
สาเหตุเลือดกำเดาออกเป็นครั้งคราว เช่น
โรคภูมิแพ้ของจมูก สั่งน้ำมูกแรง จามแรงๆติดต่อกัน ติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น โรคหวัด มีอุบัติเหตุที่จมูก มีแผลในจมูก การแคะจมูกบ่อยๆ (เพราะก่อการระคายเคืองเยื่อเมือก และอาจก่อให้เกิดแผลได้) อากาศเย็นเพราะจมูกจะแห้ง มีสิ่งแปลกปลอมในโพรงจมูก มักพบในเด็กที่ชบเอาสิ่งต่างๆใส่เข้าไปในโพรงจมูก ได้รับสารก่อการระคายเคือง เช่น สารเคมีต่างๆ ซึ่งถ้าได้รับต่อเนื่อง เลือดกำเดาอาจออกบ่อยได้ การเล่นรุนแรง ออกกำลังกายมาก อากาศร้อน จะเสียเหงื่อมาก จมูกจะแห้ง เลือดกำเดาจึงออกง่าย
สาเหตุเลือดกำเดาออกบ่อย เช่น
มีโรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคเลือด เช่น กรณีของคุณ หรือมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ กินยาลดการแข็งตัวของเลือด เช่น ในโรคหลอดเลือดสมอง หรือ โรคหลอดเลือดหัวใจ ผลข้างเคียงจากยาบางชนิดที่ใช้ประจำ เช่น ยาต้านการอักเสบในกลุ่มเอนเสดส์ (NSAIDs) โรคภูมิแพ้จมูกเรื้อรัง มีก้อนเนื้อ หรือมีแผลเรื้อรังในโพรงจมูก
อ้างอิงข้อมูลจาก เว็บไซต์ หาหมอ.com ค่ะ |