สมุนไพรแก้ปวดท้องประจําเดือน สมุนไพรดีๆ ของคนไทย รักษา อาการ ปวดท้อง ประจำเดือน เชิญทางนี้
บทความที่ 1 เรื่องสมุนไพรรักษา อาการปวดท้องประจำเดือน
บทความที่ 2 เรื่องสมุนไพรรักษา อาการปวดท้องประจำเดือน
วิธีแก้ปวดท้องประจําเดือนอย่างรุนแรง ปวดท้องประจําเดือน อาการ
กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน Premenstrual Syndrome
ปวดประจำเดือน
เชื่อคุณผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีอาการก่อนมีประจำเดือนทุกเดือนจนเกิดความคุ้นเคยกับมัน เดือนไหนไม่มีอาการเหมือนขาดอะไรสักอย่าง บางคนก็มีอาการไม่มากจนไม่รบกวนคุณภาพชีวิต แต่บางคนก็เป็นมากจนเกิดอาการซึมเศร้า ประมาณว่าผู้ป่วยร้อยละ 8-10จะมีอาการของกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน อาการต่างๆเหล่านี้ได้แก่ คัดเต้านม เวียนศีรษะ ปวดท้องอาการเหล่านี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในกระแสเลือดโดยมาก อาการมักจะไม่รุนแรงจนกระทั่งรบกวนคุณภาพชีวิต แต่คนกลุ่มหนึ่งอาการเหล่านี้รุนแรงจนกระทั่งบางคนเกิดอาการซึมเศร้า แบ่งกลุ่มอาการออกเป็น
อาการทางกาย
อาการทางกายมักเกิดก่อนมีประจำเดือน 2 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะมีอาการแน่นท้อง คัดเต้านม บวมน้ำเล็นน้อย บางคนอาจจะเจ็บเต้านมขณะไข่ตกเมื่อมีประจำเดือนอาการเจ็บเต้านมก็หายไป จุกเสียดแน่นท้อง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ร้อนตามตัว นอนไม่หลับ ไวต่อเสียงและกลิ่น
อาการทางอารมณ์
อารมณ์ของผู้ป่วยจะผันผวนมากโกรธง่าย เครียด จะสูญเสียสมาธิ บางคนความจำไม่ดี มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งจะมีอาการซึมเศร้าอย่างมาก โกรธง่าย บางคนอาจจะร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล และปวดศีรษะจากความเครียดก่อนมีประจำเดือนเรียกกลุ่มอาการนี้ว่า Premenstrual dysphoric disorder (PMDD)ซึ่งเป็นโรค premenstrual syndrome ที่มีอาการรุนแรง โดยต้องมีอาการทางซึมเศร้าอย่างน้อย 5 อาการตามการวินิจฉัย
การวินิจฉัย Premenstrual dysphoric disorder (PMDD)
ผู้ป่วยจะเกิดอาการก่อนมีประจำเดือนและหายไปหลังประจำเดือนมาโดยจะต้องมีอาการดังต่อไปนี้ 5 อาการเป็นอย่างน้อย
- รู้สึกซึมเศร้าหมดหวัง อาจจะมีความคิดทำร้ายตัวเอง - มีความวิตกกังวลและเครียด - อารมณ์จะเปลี่ยนแปลงได้ง่าย และอาจจะร้องไห้ - อารมณ์ไม่มั่นคงโกรธคนอื่นง่าย - ไม่สนใจชีวิตประจำวันและไม่สนใจคนอื่น - ไม่มีสมาธิในการทำงาน - อ่อนเพลียขาดพลังงานในการทำงาน - Food cravings or bingeing - นอนไม่หลับ - ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเอง - อาการทางกายได้แก แน่นท้อง เจ็บเต้านม ปวดศีรษะ ปวดข้อ
สาเหตุของการเกิด Premenstrual syndrome
Reproductive Hormones and Neurotransmitters เมื่อให้ยาที่ลดการสร้าง estrogen สามารถทำให้อาการดีขึ้นจึงเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างฮอร์โมนเพศกับสารที่หลั่งในสมอง ได้แก่ serotonin และ gamma-aminobutyric acid (GABA). ระดับ serotonin ที่ต่ำจะสัมพันธ์กับอาการซึมเศร้าและ carbohydrate cravingsและการขาดสาร GABA จะทำให้เกิดความวิตกกังวล เสียสมดุลของ Calcium และ Magnesium โดยพบว่าคนที่ขาด magnesium และมีระดับ calcium สูงจะเกิดอาการได้ง่าย เกิดจากความเครียดทำให้มีการหลั่งฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความเครียดออกมาได้แก่ cortisol ทำให้กระตุ้นเกิดอาการขึ้นมา
ผลของเสียต่อสุขภาพของ Premenstrual syndrome
ขณะที่มี Premenstrual syndrome จะทำให้โรคหลายโรคกำเริบ เช่นโรคปวดศีรษะไมเกรน โรคเบาหวาน โรคหอบหืด โรคลมชัก โรคsle ผลเสียทางอารมณ์ทำให้มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับสมาชิกในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน บางคนอาจจะมีความคิดที่จะทำร้ายตัวเอง ผู้ป่วยมักจะกังวลเรื่องเจ็บเต้านมทำให้ต้องตรวจ mamography ก่อนวัยอันควร
การวินิจฉัย Premenstrual syndrome
ผู้ป่วยควรทำตารางจดอาการต่างๆที่เกิดในรอบเดือน 2-3 เดือนนำไปปรึกษาแพทย์โดยเริ่มจดตั้งแต่วันที่หนึ่งของรอบเดือนจนกระทั่งประจำเดือนมาดังตัวอย่าง หากมีอาการเหมือนกันและเป็นช่วงเดียวกันของรอบเดือนก็ให้การวินิจฉัยว่าเป็น premenstrual syndrome
การป้องกัน
เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุของโรคแน่ชัดดังนั้นจึงยังไม่มีวิธีที่ได้ผลดีและเชื่อถือได้จึงมีคำแนะนำรวมๆเพื่อป้องกัน
- รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ - หลีกเลี่ยงอาหารที่มี carbohydrate สูง - รักษาน้ำหนักไม่ให้อ้วน - ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ - หลีกเลี่ยงกาแฟ บุหรี่ และสุรา - ใช้ยาแก้ปวดเมื่อจำเป็นเช่น ibuprofen or naproxen - รับประทาน calcium ทุกวัน (1,500 mg/day),เท่ากับดื่มนมวันละ 3-4 แก้ว - หลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่ทำให้เครียด
การรักษาโดยไม่ใช้ยา
- อาหารให้หลีกเลี่ยงของหวาน กาแฟ บุหรี่ สุรา รับประทานผักสด ผลไม้ ธัญพืช หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม นมสด หลีกเลี่ยงเนื้อแดง แนะนำให้รับประทานอาหารมื้อละน้อยๆ อย่ารับประทานครั้งละมากๆ รับประทานอาหารให้เป็นเวลาเพื่อป้องกันท้องอืด - การออกกำลังกายควรวันละ 30 นาทีโดยการเดินเร็วๆไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายอย่างหนักเพราะจะทำให้ประจำเดือนผิดปกติ - ให้รับประทาน calcium วันละ 1200 มิลิกรัมต่อวันซึ่งจะเห็นผลหลังจากรับยาไปแล้ว3 เดือน - วิตามินมีบางรายงานว่าอาการ Premenstrual syndrome เกิดจากการขาดวิตามินหลายชนิดได้แก่ vitamins A, E, B-6, และ B1ดังนั้นจึงมีผู้แนะนำให้รับวิตามิน B1 และ B6 - นอนพักให้เพียงพอ - ลดความเครียด
การรักษาโดยใช้ยา
- Selective serotonin-reuptake inhibitors (SSRIs) เป็นยาที่เพิ่มระดับ serotonin ในสมองเป็นกลุ่มยาที่รักษาอาการซึมเศร้าได้แก่ fluoxetine , sertraline , paroxitine มีรายงานว่าสามารถอาการซึมเศร้าและอาการปวดศีรษะ - GnRH Analogs เป็นยาที่ลดการสร้าง estrogen ทำให้ไม่มีการตกไข่ทำให้อาการ คัดเต้านม อ่อนเพลีย และโกรธง่ายหายไป แต่ต้องระวังหากใช้มากกว่า 6 เดือนอาจจะทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน - Danazolเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์เหมือนฮอร์โมนเพศชายใช้ในการรักษา อาการปวดประจำเดือน (dysmenorrhea), ประจำเดือนมามาก (menorrhagia), fibroids, และโรค endometriosis - Danazolเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์เหมือนฮอร์โมนเพศชายใช้ในการรักษา อาการปวดประจำเดือน (dysmenorrhea), ประจำเดือนมามาก (menorrhagia), fibroids, และโรค endometriosis - ยาเม็ดคุมกำเนิดซึ่งจะป้องกันไข่ตกสามารถลดอาการของ premenstrual syndrome - ยาฉีดคุมกำเนิดก็นำมาใช้รักษาอาการได้ - ยาแก้ปวด
ข้อมูล : siamhealth.net
บทความที่ 3 เรื่องสมุนไพรรักษา อาการปวดท้องประจำเดือน
วันนี้ จขกท. ขอนำเสนอการลดการปวดประจำเดือนที่เป็นปัญหาสำหรับสาวๆค่ะ ตัวดิฉันเอง ก็มีอาการปวดแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มเป็นเกือบทุกเดือนที่ร้องไห้เพราะความเจ็บเลยค่ะ และขอบอกไว้ก่อนเลยนะคะ ว่าสาวๆคนใหนที่ปวดประจำเดือนมากถึงมากที่สุด แต่คิดว่าคงไม่เป็นไร ความคิดนั้นผิดอย่างมหันต์ค่ะ เนื่องจากคนที่มีอาการแบบนี้อาจมีโอกาสพัฒนาเป็นเนื้องอกจนถึงมะเร็งได้ ดิฉันจึงได้ไปรวบรวมหาข้อมูลมาเท่าที่หาได้ค่ะ
วิธีของเจ้าของกระทู้
1. อย่าคิดมากๆ เดี๋ยวมันก็หายไป
2. ห้ามกินน้ำเย็นเด็ดขาด ให้กินน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นแทน
3. กระเป๋าน้ำร้อน เอามาประคบท้องช่วยบรรเทาได้ค่ะ แต่ของเราเราใช้แค่แก้วเติมน้ำร้อนวางบนท้องเฉยๆ ก็ได้
4. จะมีสมุนไพรที่เรียกว่าลูกใต้ใบ เอาส่วนรากมาล้างให้สะอาดแล้วต้มกิน เราก็พึ่งได้กินวันนี้วันแรก(วันที่ตั้งกระทู้นี้) คนต่างจังหวัดจะกินกันบ่อย เค้าบอกว่าจะไม่กลับมาปวดอีกเลย (อันนี้เราก็จะพยายามกินไปเรื่อยๆ) แต่กินไม่ยากนะ ไม่ขมแต่อาจจะจืดหน่อย ใช้กินแทนน้ำได้เลย
5. ยาแก้ปวดก็กินได้นะ ถ้าไม่อยากง่วงแนะนำให้กินซาร่า แต่ถ้าอยากพักผ่อนก็พาราเลยจ้า<<<ไม่ได้โฆษณานะคะ
6. พักผ่อนเยอะๆ นอนซะนะ จะได้มีแรงและหายปวดไปเยอะนะ
7. กรณีปวดมากๆจริงๆ แนะนำให้ไปหาหมอเลยค่ะ ไปตรวจไว้แต่เนิ่นๆ ปลอดภัยไว้ก่อน ชัวร์สุด
อันนี้หามาจ้า ขอบคุณเจ้าของกระทู้เดิมด้วย
v
v
v
เตือนไว้ก่อนว่านี้เป็นเพียงการบรรเทาเท่านั้น และผลอาจไม่เป็นที่น่าพอใจเท่ายาแก้ปวดท้องประจำเดือนซี่งเป็นแผนปัจจุบันที่ขายกัน แต่จะดีกว่ายาพวกนั้นตรงที่ไม่มีสารตกค้างแน่ ๆ กินแล้วกระดูกไม่ผุเหมือนยาแผนปัจจุบันค่ะ แถมบำรุงร่างกายด้วย
โดยปกติถ้าใครเป็นในระดับกลาง - มากนี่คงรู้ตัวนะคะ เพราะได้ดิ้นอยู่บนเตียงแล้วแน่ ๆ ลองให้คนที่บ้านไปซื้อน้ำขิง เต้าฮวยหรืออะไรก็ได้ที่เป็นนะขิงร้อน ๆ ค่ะ แต่ไม่แนะนำใช้ผงขิงสำเร็จรูปเพราะจะอ่อนไป และระวังสำหรับบางร้านเขาจะขี้โกงใส่พริกไทยประสมลงไปเพื่อให้เผ็ด ผลทีได้มันจะไม่ดีเท่าที่ควรค่ะ (ถ้าทีพริกไทยมันจะเผ็ดอย่ที่ปากนะ ไม่ร้อนท้อง)
เผ็ดของขิงจะต่างจากพริก หรือวาซาบินะ เพราะว่าขิงจะเผ็ดแบบอุ่น ๆ คือ พอกินเข้าไปมันจะร้อนไล่วาบตั้งแต่คอ อก ท้องเลย รู้สึกได้ ซดมันเข้าไปหมดชามนั่นแหละ แล้วจะดีขึ้นเอง (เหมือนยัดถุงน้ำร้องเข้าไปในท้อง)
ตอนแรก ๆ อาจมีปัญหากันนิดหน่อยเพราะไม่ชินกับรสเผ็ด แต่ฝืนใจกินหน่อย เอาพวกปาท่องโก๋ (ที่เล็ก ๆ กรอบ ๆ สำหรับใส่เต้าฮวย หรือบดใส่โจ๊) ประสมเพื่อความอร่อยได้ (แต่อย่ากินปาท่องโกอย่างเดียวแล้ววิดน้ำขิงทิ้งนะ แบบนั้นไม่ได้ผลห้ามว่ากัน) กินไปซัก 4 - 5 ครั้งก็ชินเอง เดี๋ยวก็เรียกหาทุกเดือนเองแหละ
หรือใครจะต้มเอง ซื้อขิงมาเก็บไว้ที่บ้านเป็นกิโลต้มกับมันก็ใช้ได้นะ (อันนี้เป็นวิธีที่แม่ ame จะทำให้บ่อย ๆ)
***ข้อสำคัญอย่าปล่อยให้เย็นแล้วกิน กินมันตอนร้อนที่สุดเท่าที่ปากของเพื่อน ๆ จะรับไหว
จากนั้นก็นอนพักหน่อย เดี๋ยวหายเอง ไม่ต้องพึ่งยาหรือถุงน้ำร้อน (ที่จริงอันหลังไม่มีผลข้างเคียง แต่บางคนบอกว่าใช้แล้วจะติด แม่ของ ame เลยไม่ให้ใช้ แต่ถ้าใครที่เป็นหนักถึงขึ้นอาเจียนก็ใช้ไปเหอะ ถ้าพอกัดฟันทนก็อย่าใช้เลย)
ลองทำดูนะ แล้วก็ถ้าจะป้องกันไม่ให้มันเป็ฯหรือให้เป็นน้อยก็อย่ากินของเย็น ๆ ก่อนที่ประจำเดือนจะมาซัก 2 - 3 วัน แล้วช่วงนั้นดื่มน้ำขิงด้วย เขาว่ามันจะช่วยได้ แต่ ame เองก็ยังไม่เคยทำสำเร็จ (อดใจกินไอศกรีมไม่ได้ง่ะ)
ใครมีวิธีอื่นก็มาแลกเปลี่ยนความรู้กันได้นะ อันนี้เป็นวิธีที่แล้วตัวเองก็ได้ผล
อ้างอิง เด๊กดี.com
บทความที่ 4 เรื่อง สมุนไพรรักษา อาการปวดท้องประจำเดือน
Menstruation : ปวดประจำเดือน ภาษาชาวบ้านเรียกกันง่ายๆว่า Menstrual cramps หรือเรียกเป็นภาษาแพทย์ว่าDysmenorrhea และจะขอบอกวิธีแก้ไขแบบง่ายๆโดยไม่ต้องไปหาหมอเสียก่อน
การปวดประจำเดือน หรือการปวดเมนส์นั้น จะเกิดขึ้นกับหญิงสาวหรือผู้หญิงทั่วไปเดือนละครั้ง เกิดขึ้นเพราะผนังมดลูกผลิตสารเคมีชนิดหนึ่งออกมาชื่อว่า Prostaglandins
สารตัวนี้มีลักษณะการทำงานเหมือนฮอร์โมนและมีหน้าที่ช่วยให้กล้ามเนื้อของมดลูกบีบตัว สามารถขับเยื่อส่วนหนึ่งของมดลูกและของเหลวในมดลูกให้ออกมาได้ ถ้าโปรสตาแกลนดินส์ตัวนี้ทำงานปกติ ก็จะขับเลือดประจำเดือนออกมาพอดีๆ แต่ถ้าสารตัวนี้มีมากเกินไป ก็จะทำให้ปวดเมนส์มากขึ้นจนขนาดว่าเป็นอาการผิดปกติถึงกับทำให้เป็นลมได้
วิธีแก้อาการปวดประจำเดือนแบบกะทันหัน
1. ให้ระวังเรื่องอาหาร ระวังมากๆก่อนเมนส์จะมา ผู้หญิงแทบทุกคนจะรู้ว่าวันไหนถึงกำหนดที่เมนส์จะมา ก่อนหน้านั้นให้ระวังเรื่องอาหารให้มากๆ อย่ากินอาหารประเภทมันจัด หวานจัด และเค็มจัด ที่ต้องเตือนกันเรื่องนี้ก็เพราะProstaglandins เป็นสารประเภทกรดไขมัน ถ้าคุณกินอาหารมันจัด หวานจัด เค็มจัดเยอะๆ สารตัวนี้ก็จะมีมากเกินไป เวลาเมนส์มาคุณก็จะปวดเมนส์ได้ง่าย
2. ตัดอาหารฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกาแฟ ชา น้ำอัดลม และช็อกโกแลต อาหารประเภทนี้ได้ทดลองและทดสอบมาแล้ว สำหรับคนปวดเมนส์มากๆ พอให้งดอาหารเหล่านี้ อาการปวดก็ทุเลา บางคนหายปวดไปเลย (นี่เป็นการทดลองของอาจารย์ด้านโรคเกี่ยวกับสตรี คือ อ.เพนนี บูดอฟ แห่งวีเมน เมดดิคอล เซ็นเตอร์ แห่งรพ.เบธเพจ นิวยอร์ก)
3. หยุดกินเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด (การทดลองของอ.บูดอฟอีกเช่นกัน)
4. อย่ากินยาประเภทขับน้ำ มีผู้หญิงบางคนหรือหมอสมัยใหม่บางคนแนะนำให้กินยาขับน้ำหรือยาประเภทลดความอ้วน อย่ากินเป็นอันขาด (การทดลองและวิจัยของอ.ซูซาน ล้าค ผู้เชี่ยวชาญด้านการปวดมดลูก:Premenstrual Syndrome แห่งลอส อัลโตส แคลิฟอร์เนีย)
5. ให้กินวิตามินและแร่ธาตุ กลุ่มวิตามินควรจะเป็นกลุ่มแอนตี้ออกซิแดนต์(A, B, C, D, E ) และกลุ่มB(B1, B6, B12) รวมถึงแร่ธาตุ คือแคลเซียม แมกนีเซียม โปแตสเซียม ควรกินก่อนเมนส์มาสัก1สัปดาห์ และระหว่างมีเมนส์ก็ควรกินจนกว่าเมนส์จะหมดด้วย
6. ใช้ความร้อน ให้ดื่มชาสมุนไพรร้อนๆ หรือน้ำมะนาวอุ่นๆ ขณะเดียวกันก็ใช้ผ้าอบร้อนหรือกระเป๋าน้ำร้อนวางบนหน้าท้องและบริเวณสะโพกเป็นพักๆ
7. ใช้ยาแก้ปวดชนิดเบาๆ อย่างเช่น แอสไพริน พาราเซตามอล หรือไอมูโปรเฟน เป็นครั้งคราว ที่ว่าเป็นครั้งคราวนี้ หมายความว่ามันปวดมากจนทนไม่ได้ และขอให้กินเวลาปวดจนทนไม่ได้เท่านั้น อย่ากินประจำเป็นอันขาด เพราะเห็นผู้หญิงบางคนชอบกินยาแก้ปวดเป็นว่าเล่น บางทีไม่ได้ปวดอะไรนักหนา แต่มีอะไรนิดหน่อยก็ส่งเม็ดยาเข้าปากจนติดเป็นนิสัย ระวังจะกลายเป็นคนติดยา พอๆกับคนติดยาบ้านั่นเลย
8. การบริหารและออกกำลังกาย อันนี้เป็นข้อบังคับตายตัวเลยว่าคุณต้องทำ ควรจะทำคู่กัน คือบริหารให้ร่างกายยืดและกล้ามเนื้อข้อต่อคลายและเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว แล้วจึงออกกำลังกายจนเหงื่อออกโทรมตัว จะใช้วิธีบริหารและออกกำลังแบบไหนก็ได้ตามถนัด โยคะก็ดี หรือบริหารผสมการนวดตัวก็ดี ควรเป็นการนวดแผนไทยหรือนวดเท้าดูก็ช่วยได้
9. เมกเลิฟบ่อยๆ และต้องให้ได้Orgasmด้วย อย่าหาว่าทะลึ่งนะ อันนี้เป็นข้อแนะนำของอ.ซูซาน ล้าค(เจ้าเก่า)ซึ่งได้ค้นคว้าและวิจัยมาแล้ว
ค่ะ เนื้อหาดังกล่าวนี้ Sincere ก็เพิ่งไป search พบเมื่อไม่นานมานี้ ก็เรียกว่าได้ความรู้ใหม่เพิ่มขึ้นมามากเหมือนกันค่ะ ขอบคุณเจ้าของเนื้อหาด้วยคนค่ะ
ที่มา:dolphin7.exteen.com
สมุนไพร รักษาอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง เสริมสร้างทรวงอกให้เต่งตึง กระชับ ไม่เหี่ยวย่น หย่อนยาน รูปภาพ สมุนไพร ว่านชักมดลูก รูปที่ 1
สมุนไพร รักษาอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง เสริมสร้างทรวงอกให้เต่งตึง กระชับ ไม่เหี่ยวย่น หย่อนยาน
รูปภาพ สมุนไพร ว่านชักมดลูก รูปที่ 2
สมุนไพร รักษาอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง เสริมสร้างทรวงอกให้เต่งตึง กระชับ ไม่เหี่ยวย่น หย่อนยาน
รูปภาพ สมุนไพร ว่านชักมดลูก รูปที่ 3
สมุนไพร รักษาอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง เสริมสร้างทรวงอกให้เต่งตึง กระชับ ไม่เหี่ยวย่น หย่อนยาน
รูปภาพ สมุนไพร ว่านชักมดลูก รูปที่ 4
สมุนไพร รักษาอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง เสริมสร้างทรวงอกให้เต่งตึง กระชับ ไม่เหี่ยวย่น หย่อนยาน
รูปภาพ สมุนไพร ว่านชักมดลูก รูปที่ 5
บทความที่ 5 เรื่อง สมุนไพรรักษา อาการปวดท้องประจำเดือน
ยกเครื่องเรื่องผู้หญิง ให้กระชับและเต่งตึงด้วย ว่านชักมดลูก มารู้จักว่านชักมดลูกกันเถอะ
ว่านชักมดลูก มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma Zanthorrhiza Roxb. เป็นพืชสมุนไพรที่อยู่ในวงศ์ ZINGIBERACEAE ซึ่งเป็นพืชตระกูลขิง โดยมีชื่อพื้นเมือง ที่เราเรียกกันจนคุ้นเคยติดปากว่า ว่านทรหด สำหรับชื่ออื่นๆ ที่ใช้เรียกกันตามท้องที่ต่าง ๆ ได้แก่ ว่านพระยาหัวศึก ว่านการบูรเลือด
ว่านชักมดลูก เป็นไม้ล้มลุกจำพวกเหง้าใต้ดิน อยู่ในวงศ์ขิง ข่า สูงได้ถึง 2 เมตร ใบมีลักษณะเป็นพืช ใบเดี่ยวเหมือนขมิ้น แต่มีความใหญ่โตผิดกว่ากันหลายเท่าเรียงกันเป็นกระจุก อยู่ใกล้ราก รูปขอบใบขนานแกมวงรี กว้าง 15-21 เซนติเมตร ยาว 40-90 เซนติเมตร โดยร่องกลางใบมีลักษณะเป็นทาง สีดำแดง หรือสีน้ำตาลหม่นปนแดง กว้างได้ถึง 10 เซนติเมตร กาบใบยาวได้ถึง 75 เซนติเมตร เหง้าหรือหัว มีลักษณะกลมใหญ่และเกลี้ยงเหมือนดั่งหัวเผือกอาจยาวได้ถึง 10 เซนติเมตร ผิวด้านนอกมีสีส้มอ่อน เนื้อในหัวมีสีขาวเหลือง, สีส้ม, หรือส้มแดง ซึ่งขึ้นอยู่กับพื้นที่ปลูก โดยหัวว่านชักมดลูกนั้นมีกลิ่นฉุนร้อน และรสต่างกันเป็น 5 รส ดอก มีลักษณะเป็นช่อเชิงลดรูปทรงกระบอก กว้าง 8-10 เซนติเมตร ยาว 16-20 เซนติเมตร ก้านดอกยาว15-20 เซนติเมตร ใบประดับที่ได้ได้รองรับดอกย่อยสีม่วง ยาวได้ถึง 9 เซนติเมตร ใบประดับที่รองรับดอกย่อยสีเขียวอ่อน ยาว 5-6 เซนติเมตร ใบประดับย่อยยาวได้ถึง 2.5 เซนติเมตร กลีบดอกสีชมพู เกสรตัวผู้ที่เป็นหมันสีขาว กลีบปาก สีเหลืองแถบกลางสีเหลืองเข้ม
นอกจากนี้แล้ว ว่านชักมดลูก ยังเป็นไม้ที่เจริญงอกงาม ได้ดีในฤดูฝน แต่เมื่อเข้าหน้าหนาวต้นจะโทรมและทิ้งใบเกลี้ยง เหลือแต่หัวที่ฝังอยู่ในดิน ซึ่งต้องรีบขุดมาใช้ มิฉะนั้นสรรพคุณ ทางยาจะเสื่อมคุณภาพลง
ว่านชักมดลูกมีกี่ประเภท?
ว่านชักมดลูกที่เรารู้จักกันมีอยู่ 2 ประเภท ซึ่งอาจแบ่งได้ตามสายพันธุ์ ดังนี้ คือ
ว่านชักมดลูก (ตัวผู้) ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma Zanthorrhiza Roxb. ว่านชักมดลูก (ตัวเมีย) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma Comosa Roxb. ว่านชักมดลูกทั้ง 2 สายพันธุ์นี้จะมีลักษณะ ภายนอกที่คล้ายคลึงกัน แต่ส่วนใหญ่มักนิยมว่านชักมดลูกตัวผู้มาเข้าในตำรับยามากกว่าตัวเมีย เพราะสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ซึ่งมีสรรพคุณในทางยามีมากกว่านั้นเอง
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
จากผลการวิจัยสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ทางยาของว่านชักมดลูกจากสถาบันต่าง ๆ ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องพบว่า ใน ว่านชักมดลูก มีสารออกฤทธิ์ที่สามารถลดการอักเสบ ยับยั้งเนื้องอก ยับยั้งการสังเคราะห์กรดไขมันลดปริมาณ ไตรกลีเซอไรด์และโคเลสเตอรอลในเลือดที่มีปริมาณสูง ยับยั้งเบาหวานและการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเรียบ ลดการซึมผ่านของหลอดเลือด แก้ปวด รักษาแผล ปรับ อุณหภูมิในร่างกายให้สมดุล ลดพฤติกรรมธรรมชาติของสัตว์ทดลอง เพิ่มฤทธิ์บาร์บิตูเรต ยับยั้งการก่อกลายพันธุ์เป็นพิษต่อเซลล์ ยับยั้งการเป็นพิษต่อตับ กระตุ้นการผลิต น้ำดี ลดเวลาการหลับของบาร์บิตูเรต ยับยั้งเอนไซม์ GPT, GOT, alkaline phosphatase, adenine nucleotide translocass (HIV) ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านไวรัส ต้านเชื้อรา กระตุ้นการเพิ่มจำนวนเซลล์น้ำเหลือง เพิ่มน้ำหนักมดลูกและปริมาณไกลโคเจน มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนฆ่าแมลง และ ลดการสร้างเม็ดสีผิวได้ ซึ่งสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ในทางยาที่มีอยู่ใน ว่านชักมดลูก จริง ๆ แล้วมีมากมายหลายกลุ่มหนึ่งในนั้นก็คือ เคอร์คิวมิน เป็นสารที่สกัดได้จากขมิ้น ซึ่งให้ประโยชน์หลายประการ แต่ที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของกระเพาะอาหาร
ผลสรุปทางการวิจัย ยังพบอีกว่า ว่านชักมดลูก มีผลคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน คือ ฮอร์โมนที่มีในเพศหญิง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเข้าใจก่อนว่าตัวของว่านชักมดลูกเอง ไม่ใช่ฮอร์โมน แต่ทำหน้าที่คล้ายฮอร์โมนเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีฤทธิ์เพิ่มการขับน้ำดีและสามารถป้องกันมะเร็งในสัตว์ทดลองได้
สรรพคุณ ว่านชักมดลูก ของไทย ตามบันทึกในตำรับยาแผนโบราณได้กล่าวไว้ว่า ว่านชักมดลูก มีคุณประโยชน์และให้ความปลอดภัยในการใช้สำหรับผู้หญิงมากกว่ากวาวเครือ เพราะว่านชักมดลูกมีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อกระชับ เสริมหน้าอก ทำให้ผิวพรรณขาวนวล ลบรอยเหี่ยวย่นได้ แต่ ว่านชักมดลูก มีคุณสมบัติที่พิเศษกว่า กราวเครือ คือ ช่วยรักษามดลูกที่ทรุดตัว หรือเรียกว่ามดลูกต่ำให้เข้าที่ นอกจากนี้ยังช่วยกระชับช่องคลอด กระชับหน้าท้องที่หย่อนยานอันเกิดจากการคลอดบุตร ทำให้หน้าท้องตึงเรียบเหมือนสาว ๆ และยังช่วยให้ผู้หญิงที่อารมณ์ทางเพศหายไป กลับมามีเหมือนเดิม ว่านชักมดลูก ยังช่วยให้ผู้หญิงที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว จิตใจห่อเหี่ยว อ่อนไหวง่าย โกรธง่ายหายไป ทำให้คึกคักเข้มแข็งขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันมะเร็งปากช่องคลอด หรือภายในมดลูก ช่วยรักษาซีสต์ และเนื้องอกภายในช่องคลอดให้ฝ่อตัว หรือเล็กลงด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการปวดประจำเดือนอย่างได้ผลชะงัก เพราะฉะนั้นหากจะเทียบกันแล้ว ว่านชักมดลูก จึงมีประโยชน์เหนือกว่ากราวเครือมาก
แต่ทั้งนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า การใช้ว่านชักมดลูกเพียงอย่างเดียวจะให้สรรพคุณได้ไม่มากเท่าที่ควร ตามตำรายาโบราณได้ระบุถึงการนำสมุนไพรมาใช้งานว่า ต้องปรุงขึ้นตามสูตรยานั้น ๆ และจำเป็นต้องอาศัยสมุนไพรอีกหลายชนิดผสมเข้าไป จึงจะช่วยให้ออกฤทธิ์และได้ผลสูงสุด ซึ่งสรรพคุณของว่านชักมดลูกที่มีบันทึกตามตำรับยาแผนโบราณเมื่อหลายร้อยปีก่อน ได้ระบุถึงผลการนำมาบำบัดอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายไว้ว่า
- ช่วยกระชับช่องคลอดภายในสตรี
- ทำให้มีอารมณ์ทางเพศสมบูรณ์
- ดับกลิ่นปาก กลิ่นตัว กลิ่นภายในช่องคลอดให้ลดลงหรือหายไป
- ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าขาวนวล และมีเลือดฝาด
- ทำให้มดลูกต่ำและ อาการตกขาวดีขึ้น
- ช่วยรักษาอาการหน่วงเสียวมดลูก หรือเจ็บท้องน้อยเป็นประจำได้ดี
- ช่วยรักษาอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง
- มีผลในการลดหน้าท้องที่หย่อนยาน ซึ่งเกิดจากการคลอดบุตร ทำให้หน้าท้องหดตัว และเล็กลง
- เสริมสร้างทรวงอกให้เต่งตึง กระชับ ไม่เหี่ยวย่น หย่อนยาน
วิธีการใช้ ว่านชักมดลูก ตามตำรายาโบราณได้มีบันทึกไว้ตามตำรายาแผนโบราณของไทย ซึ่งเท่าที่ค้นพบจะมีวิธีการใช้ดังนี้
- ให้นำหัวว่านชักมดลูกมาฝนกับเหล้าดื่มแก้ปวดมดลูกหรือใช้ปรุงเป็นยาต้ม แก้มดลูกพิการปวดบวม ทำให้มดลูกรัดตัวเล็กลง เรียกว่า มดลูกเข้าอู่ สำหรับสตรีที่คลอดบุตรใหม่ ๆ นำหัวว่านสดมารับประทานแก้โรคลำไส้ หรือใช้หัวว่านชักมดลูกตำเป็นผงกินกับน้ำร้อน แก้ริดสีดวงทวารชนิดกลีบมะไฟและเดือยไก่
- การใช้ว่านชักมดลูก เพื่อรักษาอาการมดลูกพิการปวดบวมที่บริเวณมดลูก หรือเป็นมุตกิตระดูขาว มีวิธีการใช้ดังนี้ คือ ให้นำหัวว่านชักมดลูกไปฝานเป็นชิ้น ๆ จากนั้นนำไปปิ้งหรือย่างไฟให้แห้ง แล้วนำมาดองกับเหล้าสกัดสักสองสามวัน ดื่มวันละสองเวลาก่อนอาหาร จะช่วยบำบัดอาการทั้งหลายเหล่านั้น ให้สิ้นไป หรือหากแท้งลูกใหม่ ๆ ก็ให้รับประทานว่านชักมดลูกนี้กับเหล้าหรือน้ำปูนใส อาการเจ็บป่วยต่าง ๆ จะหายไปได้
- สำหรับท่านชาย หากเป็นกษัย ปัสสาวะขุ่นข้อง เบาแดง เบาเหลือง หรือขุ่นข้น เบาหวาน จะแก้ให้หายได้ โดยดื่มน้ำดองหัวว่านเป็นระยะเวลาสม่ำเสมอ ก็จะปราศจากอาการ ดังกล่าวได้
- หากนำหัวว่านมาโขลกกับเหล้าขาว 40 ดีกรี กรองเอาแต่น้ำดื่ม จะช่วยรักษาผู้ชายที่เป็นไส้เลื่อน กระบังลมเคลื่อนได้ นอกจากนี้ยังใช้หัวว่านสดมารับประทานแก้โรคริดสีดวงทวารได้ โดยตำให้แหลกผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอน หรือจะดื่มกับน้ำร้อนก็ได้ผลเช่นเดียวกัน ข้อควรระวังคือ ขณะที่รับประทานว่านชักมดลูกนี้ ห้ามรับประทานของคาวจัดหรือมันเลี่ยนจนเกินไป เพราะจะทำให้ตัวยาอ่อนฤทธิ์ลงได้
การใช้ ว่านชักมดลูก สำหรับสตรี แบ่งได้เป็น 3 ระยะ คือ
- ระยะแรกซึ่งเป็นระยะที่เริ่มมีประจำเดือน จะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตตามลักษณะของผู้หญิงที่ควรจะเป็น เช่น ไม่มีอาการปวดประจำเดือน ร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณผ่องใส หน้าอกเต่งตึงตามวัย ช่วยรักษาอาการตกขาวที่ผิดปกติ และทำให้อารมณ์แจ่มใสขึ้น
- ระยะที่สอง วัยแต่งงานหรือมีบุตรแล้ว จะช่วยทำให้อารมณ์ทางเพศสมบูรณ์ขึ้น ช่องคลอดกระชับ หน้าอกเต่งตึงอยู่เสมอ หน้าท้องไม่ลายหลังจากการคลอดบุตร นอกจากนี้ยังช่วยทำให้อารมณ์จิตใจแจ่มใสสดชื่น ช่วยดับกลิ่นไม่พึงปรารถนา และลบรอยเหี่ยวย่นตามร่างกายทั่วไปได้ดี
- ระยะที่สาม หรือระยะเริ่มเข้าสู่วัยทอง คือหลังจากอายุ 45 ปีขึ้นไป ว่านชักมดลูกจะช่วยไม่ให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด มึนหัว หน้ามืด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย อาการร้อนวูบวาบ ปวดเนื้อ ปวดหัว อารมณ์ฉุนเฉียว โมโหง่าย จิตใจห่อเหี่ยวซึมเศร้า ท้อแท้ ความจำเสื่อม นอนหลับยาก เวลาร่วมเพศไม่มีอารมณ์ น้ำหล่อลื่นไม่มี อาการเหล่านี้ตามตำรายาโบราณได้มีบันทึกไว้ว่า ว่านชักมดลูก สามารถช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ นี้ได้
ว่านชักมดลูก สำหรับสาวประเภทสอง จากบันทึกตามตำรายาแผนโบราณกล่าวไว้ว่า สมุนไพรว่านชักมดลูก สามารถใช้ได้กับคนทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายหรือแม้แต่คนที่มีความผิดปกติทางเพศ เช่น กลุ่มคนที่เรียกว่า ทอม หรือ กระเทย ก็สามารถใช้ว่านชักมดลูกมาเสริมสร้างร่างกายให้สดใสแข็งแรงได้เช่นกัน โดยคุณประโยชน์ที่จะได้รับก็คือ
- ทำให้ร่างกายแข็งแรง นวล สดใส เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล
- กลิ่นปาก กลิ่นตัว กลิ่นอับในที่ต่างๆ จะหายไปโดยไม่ต้องใช้น้ำหอมต่างๆ มาช่วย
- อารมณ์ทางเพศที่ไม่สมบูรณ์ จะกลับมาสมบูรณ์เช่นเดิม
- อารมณ์ฉุนเฉียว หรืออ่อนไหวง่าย จะเปลี่ยนเป็นอารมณ์ดี เข้มแข็งขึ้น
- สิว ฝ้า บนใบหน้าหรือร่างกาย จะจางลงและค่อย หมดไป
ทิพย์โอสถยาไทย เรามีประสบการณ์และคุณภาพที่ยาวนานกว่า 100 ปี และก็เป็นที่ยอมรับในประชาชนแถบจังหวัดราชบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี เป็นต้น ให้การยอมรับในคุณภาพของฤทธิ์ยาในตำรับยาต่างๆของทิพย์โอสถยาไทย คุณแม่สุจินต์ ภู่แย้ม ได้มีความคิดที่จะพัฒนาตำรับยาต่างๆของทิพย์โอสถยาไทยให้ถูกต้องตามกฎกระทรวงสาธารณสุข จึงคิดจะสร้างโรงงานและจะได้แยกขบวนการผลิตให้ถูกต้องตามคณะกรรมการอาหารและยา(อย)ที่ได้กำหนดไว้อย่างเป็นระบบและได้มาตรฐาน เพื่อรองรับมาตรฐาน GMP อย. และเครื่องหมายรับรองฮาลาล รวมถึงมาตรฐาน HACCP เพื่อที่จะรับประกันแก่ผู้บริโภคว่าโรงงานของเราได้มาตรฐานสะอาด ปลอดภัย วัตถุดิบ ทางทิพย์โอสถยาไทย สมุนไพรเพื่อสุขภาพ สมุนไพรเราปลูกเองและมีลูกไร่คอยป้อนวัตถุดิบให้เราจึงสามารถจัดการระบบวัตถุดิบแบบครบวงจรเพื่อที่จะสามารถควบคุบมาตรฐานการผลิตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใดสนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย thiposot modern herb สมุนไพรเพื่อสุขภาพ เหมาะสำหรับคนทุกวัยที่รักสุขภาพและรักษาอาการบาดเจ็ดจากโรคต่างๆ โดยเป็นสมุนไพรที่ผลิตจากธรรมชาติแท้ 100 เปอร์เซนต์ (Made from natural herbs.) ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่าปลอดภัย 100 เปอร์เซนต์ และด้วยประสบกานต์กว่า 80 ปี ของสมุนไพรตำรับทิพย์โอสถยาไทย จึงเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั่วไป สมุนไพรสูตรหรือตำรับนี้ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร และได้รับการพัฒนามาจนถึงปัจจุบันนับเวลาได้ยาวนานกว่า 100 ปี
ชื่อยาสมุนไพร : ยาว่านชักมดลูกผสมสมุนไพร Details : Properties สรรพคุณ - ช่วยกระชับช่องคลอดภายในสตรี - ทำให้มีอารมณ์ทางเพศสมบูรณ์ - ดับกลิ่นปาก กลิ่นตัว กลิ่นภายในช่องคลอดให้ลดลงหรือหายไป - ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าขาวนวล และมีเลือดฝาด - ทำให้มดลูกต่ำและ อาการตกขาวดีขึ้น - ช่วยรักษาอาการหน่วงเสียวมดลูก หรือเจ็บท้องน้อยเป็นประจำได้ดี - ช่วยรักษาอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง - มีผลในการลดหน้าท้องที่หย่อนยาน ซึ่งเกิดจากการคลอดบุตร ทำให้หน้าท้องหดตัว และเล็กลง - เสริมสร้างทรวงอกให้เต่งตึง กระชับ ไม่เหี่ยวย่น หย่อนยาน
Normal price : 0.00 Special price : 250.00
|