ห้องภาพทิพย์โอสถ สมุนไพรไทย ตอน ต้นหนอนตายอยาก รูปที่ 6
ห้องภาพทิพย์โอสถ สมุนไพรไทย ตอน ต้นหนอนตายอยาก รูปที่ 7
ต้นหนอนตายหยาก
ต้น หนอนตายหยาก
ชื่อวิทยาศาสตร์ Stemona tuberose Lour วงศ์ Stemonaceaeหนอนตายหยาก เป็นพันธุ์ไม้จำพวกไม้เลื้อยตามพื้นดินหรือพาดพันตามต้นไม้อื่น
ราก เป็นรากที่มีลักษณะอวบใหญ่กว่าเถา มีหน้าที่เก็บสะสมอาหาร
ต้น ต้นเป็นเถาคล้ายใบพลูมาก
ใบ ใบโต ปลายใบเรียวแหลมคล้ายใบพลู เส้นลายในใบถี่ละเอียด
ดอก มีดอกเล็ก ๆ เป็นกลีบ ๆ คล้ายดอกจำปา ดอกสีแดงชนิดหนึ่ง สีขาวชนิดหนึ่ง
ผล มีฝักเล็ก ปลายฝักแหลม กว้างราว 1 เซนติเมตร
เมล็ด ภายในผลมีหลายเมล็ด เมื่อแก่มีสีดำ ขนาดเล็ก
หนอนตายหยาก เป็นไม้ล้มลุกเจริญในฤดูฝน สิ้นฤดูฝนก็เหี่ยวแห้งไป ถึงฤดูฝนก็งอกงามขึ้นมาอีก เพราะมีหัวอยู่ใต้ดิน ชอบขึ้นตามป่า มีทั่วไปในประเทศไทย ท้องถิ่นมีการเรียกชื่อพืชหนอนตายหยากเหมือนกันในแต่ละท้องถิ่น และมีประสิทธิภาพในการกำจัดหนอนได้เช่นเดียวกันแต่เป็นพืชต่างชนิดกันเมื่อตรวจสอบทางอนุกรมวิธาน กล่าวคือพืชที่ท้องถิ่นเรียกว่าหนอนตายหยากนั้น มีความแตกต่างกันดังนี้
หนอนตายหยาก พืชในวงศ์ Stemonaeae เป็นพืชที่นำส่วนของรากมาใช้ประโยชน์ พบได้ในป่าทั่ว ๆ ไปของประเทศจีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย ลาว ไทย ฯลฯ สำหรับประเทศไทยพบหนอนตายหยากได้ทั่วไปทุกภาค และมีชื่อเรียกต่างกันตามท้องถิ่น เช่น พญาร้อยหัว กระเพียดหนู ต้นสามสิบกลีบ โป่งมดง่าม สลอดเชียงคำ ฯลฯ นอกจากนั้นหนอนตายหยากในประเทศไทยยังมีความหลากหลายในชนิด (Species) เช่น Stemona tuberose Lour, Stemona collinsae Craib, Stemona keri, Stemona berkill, Stemona stercochin ฯลฯ
สรรพคุณ ใช้เป็นตัวยาสมุนไพรรักษาโรคในคนได้หลากหลาย เช่น โรคผิวหนัง น้ำเหลืองเสีย ผื่นคันตามร่างกาย ฆ่าเชื้อโรคพยาธิภายใน มะเร็งตับ ลดระดับน้ำตาลสำหรับโรคเบาหวาน รวมทั้งริดสีดวง ปวดฟัน ปวดเมื่อย นอกจากนี้ในประเทศจีนมีการนำรากหนอนตายหยาก Stemona tuberose Lour, Stemona sessilifolia (Miq) Stemona japonica (BJ) Miq มาใช้ในการรักษาอาการไอ โรควัณโรค ฯลฯ โดยใช้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ แต่ก่อนที่จะทำเป็นยาก็มีขั้นตอนทำลายพิษ เช่น นำรากมาล้างให้สะอาดแล้วลวกหรือนึ่งจนกระทั่งไม่เห็นแกนสีขาวในราก ต้องตากแดดก่อนนำไปปรุงเป็นตำหรับยา โดยหั่นให้มีขนาดเล็ก หรือในบางตำราจะนำไปเชื่อมกับน้ำผึ้งก่อนนำไปใช้ ในการใช้เป็นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช กำจัดแมลงศัตรูพืช เช่น หนอนกัดกินใบ และ เพลี้ยอ่อน กำจัดเชื้อสาเหตุโรคพืช เช่น Rhizoctonia solani และ Erwinia carotovora รวมทั้งการกำจัดลูกน้ำยุง (นันทวัน และอรนุช 2543) สารออกฤทธิ์ที่ตรวจพบอยู่ในกลุ่ม Alkaloids ได้แก่ Stemofoline และ 16 17 didehydro-16 (e)- Stemofoline สารนี้ตรวจพบในหนอนตายหยากชนิด Stamona collinsaecraib (Jiwajinda และคณะ 2001) ในปัจจุบันมีการขยายพันธุ์และปลูกเลี้ยงหนอนตายหยากนำมาขายเป็นการค้าโดยนำรากมาสกัดด้วยน้ำหรือแอลกอฮอล์เพื่อใช้ป้องกันกำจัดศัตรูพืชในแปลงเกษตรกร
การขยายพันธุ์ หนอนตายหยากเป็นพืชที่นำรากมาใช้ประโยชน์แต่เวลาที่ท้องถิ่นขุดขึ้นมาขายมักติดส่วนเหง่าที่ใช้ขยายพันธุ์มาด้วยรากที่เห็นเป็นกอใหญ่ๆ นั้นต้องใช้เวลาหลานปีจึงจะเจริญเติบโตได้ขนาดนั้นประกอบกับหนอนตายหยากแต่และสายพันธุ์มีการติดฝักและติดเมล็ดได้มากน้อยแตกต่างกัน ถ้าเรายังขุดหนอนตายหยากจากป่ามาใช้โดยไม่มีการขยายพันธุ์หรือปลูกเพิ่มก็มีโอกาสการที่จะทำให้เกิดการสูญพันธุ์ได้ง่าย วิธีการขายพันธุ์สามารถทำได้ทั้งการเพาะเมล็ดการแบ่งเหง้า
อ้างอิงข้อมูลจาก thaigoodview.com
รูปภาพจาก สมุนไพรไทย ทิพย์โอสถ www.thiposot.com