สมุนไพรไทย บัว สมุนไพรที่มากสายพันธุ์ มากสรรพคุณ โดย ทิพย์โอสถ ยาไทย คู่คนไทย ของคนไทย
สมุนไพรไทย บัว สมุนไพรที่มากสายพันธุ์ มากสรรพคุณ โดย ทิพย์โอสถ ยาไทย คู่คนไทย ของคนไทย รูป บัว รูปที่ 1
สมุนไพรไทย บัว สมุนไพรที่มากสายพันธุ์ มากสรรพคุณ โดย ทิพย์โอสถ ยาไทย คู่คนไทย ของคนไทย รูป บัว รูปที่ 2
ชื่อสามัญ Water Lily ชื่อวิทยาศาสตร์ Nymphea lotus Linn. วงค์ NYMPAEACEAE
บัว เป็นพืชน้ำล้มลุก ลักษณะลำต้นมีทั้งที่เป็น เหง้า ไหล หรือหัว ใบเป็นใบเดี่ยวเจริญขึ้นจากลำต้น โดยมีก้านใบส่งขึ้นมาเจริญที่ใต้น้ำ ผิวน้ำหรือเหนือน้ำ รูปร่างของใบส่วนใหญ่กลมมีหลายแบบ บางชนิดมีก้านใบบัว
บัวที่พบและนิยมปลูกในประเทศไทย มาจาก 3 สกุล คือ
บัวหลวง (lotus) เป็นบัวในสกุล Nelumbo มีชื่อเรียกกันทั่วไปว่า ปทุมชาติ หรือบัวหลวง
บัวผัน,บัวสาย (waterlily) เป็นบัวในสกุล Nymphaea มีลำต้นใต้ดินเป็นหัว หรือเหง้า ใบและดอกเกิดจากตาหรือหน่อที่เจริญขึ้นมาที่ผิวน้ำด้วยก้านส่งใบและยอด
บัววิกตอเรีย (Victoria) เป็นบัวในสกุล Victoria มีชื่อเรียกกันทั่วไปว่า บัวกระด้ง จัดเป็นบัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุด
บัวไม่ใช่แค่พืชน้ำที่ใช้ปลูกประดับให้ความสวยงามแก่บ้านเท่านั้นแต่คนไทยได้นำมาใช้ประโยชน์หลากหลายตั้งแต่ครั้งโบราณมาแล้ว ทั้งนำมาเป็นอาหาร นำมาเป็นยารักษาโรค อีกทั้งยังถือว่าเป็นดอกไม้แห่ง พระพุทธศาสนา จึงอยากจะแนะนำถึงปรโยชน์ของบัวที่บางท่านอาจจะทราบหรือไม่ทราบก็ตามมาชี้แจงอีกครั้งหนึ่ง
บัวในตำรายาไทยนั้นได้กล่าวถึงประโยชน์ของบัวไว้หลายประการด้วยกันอย่างเช่น บัวน้ำ บัวสาย พบหลายชนิดในบ้านเรา เช่น
บัวขม บัวสายเล็กพันธุ์ดอกขาว บัวกินสาย บัวสายขนาดกลางพันธุ์ดอกขาวแกมชมพู บัวสัตตบุษย์ บัวสายใหญ่พันธุ์ดอกขาวปลอด บัวสัตตบรรณ บัวสายใหญ่พันธุ์ดอกสีแดงหรือชมพู บัวจงกลนี บัวสายใหญ่พันธุ์ดอกชมพูอ่อน บัวเผื่อน ดอกเล็กสีขาว ปลายกลีบดอกสีครามอ่อน แล้วเผื่อนเป็นสีขาวหรือปลายกลีบเป็นสีชมพูเมื่อใกล้โรย บัวผัน บัวสายเล็กพันธุ์ดอกสีคราม ถ้าดอกสีม่วงหรือชมพูสายและดอกจะใหญ่
บัวทั้งหมดนี้ มีสรรพคุณเหมือนกันคือ
ดอก รสฝาดหอมเย็น สรรพคุณ บำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น บำรุงกำลัง แก้ไข้ตัวร้อน เมล็ด(คั่ว) รสขมหอม สรรพคุณ บำรุงกำลัง เจริญอาหาร หัว รสหอมัน สรรพคุณ บำรุงร่างกาย ชูกำลัง บำรุงครรภ์
บัวหลวง มีชนิดต่าง ๆ ดังนี้
บัวหลวงแดง พันธุ์ดอกสีแดง บัวหลวงขาว พันธุ์ดอกสีขาว บัวสัตตบงกชแดง พันธุ์ดอกสีแดงซ้อน บัวสัตตบงกชขาว พันธุ์ดอกสีขาวซ้อน
บัวทั้ง 4 ชนิดนี้ มีสรรพคุณเหมือนกันคือ
เหง้า รสหวานมันเล็กน้อย สรรพคุณ บำรุงกำลัง แก้ร้อนในกระหายน้ำ แกเเสมหะ แก้ไข้เพื่อดี แก้อาเจียน แก้ไข้ตัวร้อน ดอก รสฝากหอม สรรพคุณ บำรุงครรภ์ แก้ไข้ ทำให้เกิดลงเบ่งคลอดบุตรง่าย เกสร รสฝาดหอม สรรพคุณ แก้ไข้รากสาด หรือไข้ท้องเสีย ชูกำลังให้ชื่นใจ บำรุงครรภ์รักษา ฝัก รสฝาด สรรพคุณ แก้ท้องเสีย แก้พิษเห็ดเมา ขับรกให้ออกเร็วเวลาคลอดบุตร เปลือกเมล็ด รสฝาด สรรพคุณ แก้ท้องร่วง สมานแผล เมล็ด รสหวานมัน สรรพคุณ บำรุงกำลัง บำรุงไขข้อ ทำให้กระชุ่มกระชวย ดีบัว รสขม สรรพคุณ ขยายหลอดเลือดหัวใจ แก้กระหายหลังจากอาเจียนเป็นโลหิต แก้น้ำกามเคลื่อนขณะหลับ ใบอ่อน รสฝาดเปรี้ยว สรรพคุณ มีวิตามิน ซี บำรุงร่างกายให้ชุ่มชื่น ใบแก่ รสฝาดเปรี้ยวเล็กน้อย สรรพคุณ แก้ไข้บำรุงเลือด
การนำบัวมาใช้ในการรักษาโรคต่าง ๆ เจ็บคอ ดอกบัวสด 1 ดอก ชงกับน้ำร้อน 3 แก้ว ดื่มน้ำจะหายเจ็บคอ ท้องอืด รับประทานเมล็ดบัวสด หรือเมล็ดบัวกะเทาะ ต้มรับประทานน้ำและเมล็ดบัว ท้องเสียเรื้อรังในเด็ก เมล็ดบัวบดละเอียด ผสมกับข้าวต้ม โจ๊ก หรือผสมกับข้าวหุงรับประทาน นอนไม่หลับ, บำรุงสมอง, ปวดหัว ดอกบัว 5 ดอก ต้มกับน้ำให้เดือดนาน 5 10 นาที ใช้ดื่มวันละ 3 4 ครั้ง ก่อนอาหาร บิดเรื้อรัง, ปวดบั้นเอว, ปัสสาวะบ่อย ให้รับประทาน เมล็ดบัวสดต่างขนม หรือของว่างจะหายเร็ว แมลงคาเรืองเข้าหู ใช้ยอดบัวที่ยังม้วน หั่นเป็นฝอยผสมน้ำมันงา เคี่ยวให้ใบบัวกรอบ ตั้งไว้ให้เย็น ใช้หยอดหู แมลงคาเรือง จะไต่ออกมาเอง ใช้รักษาอาการปวดหู แมลงทุกชนิดเข้าหู ใช้ได้ผลดี ริดสีดวงจมูก
1. ใช้ก้านใบหรือก้านดอกตากแห้งสูบเหมือนบุหรี่ 2. ใบบัวสดเขียวหั่นเป็นฝอยตากลมพอแห้ง มวนกับใบตองสูบ 3. เกสรดอกบัวแห้ง มวนด้วยใบบัว แล้วสูบเป็นบุหรี่ เช้า เย็น เลือดกำเดาไหล ใบบัวหั่น ต้มดื่มน้ำมากๆ เส้นเลือดหัวใจตีบ ใช้ดีบัว(ไส้ในเมล็ดบัว) ชงกับน้ำร้อนชงดื่มทุกๆ วัน อ่อนเพลีย ใช้เกสรบัว หรือดอกบัวชงกับน้ำร้อนดื่มแทนชา โรคลมวิงเวียน ใช้เกสรบัว บดเป็นผง ชงกับน้ำร้อนดื่มแทนน้ำชา
อ้างอิงจาก tinnart.wordpress.com |