ยอด ผล ล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้น สรรค์สร้างโดย ทิพย์โอสถ สมุนไพรไทย ตอน ยอดฟักทอง
ยอด หรือ ผล ล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้น สรรค์สร้างโดย ทิพย์โอสถ สมุนไพรไทย ตอน ยอดฟักทอง รูปที่ 1
ยอด หรือ ผล ล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้น สรรค์สร้างโดย ทิพย์โอสถ สมุนไพรไทย ตอน ยอดฟักทอง รูปที่ 2
ยอด หรือ ผล ล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้น สรรค์สร้างโดย ทิพย์โอสถ สมุนไพรไทย ตอน ยอดฟักทอง รูปที่ 3
ยอด หรือ ผล ล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้น สรรค์สร้างโดย ทิพย์โอสถ สมุนไพรไทย ตอน ยอดฟักทอง รูปที่ 4
ยอด หรือ ผล ล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้น สรรค์สร้างโดย ทิพย์โอสถ สมุนไพรไทย ตอน ยอดฟักทอง รูปที่ 5
พืชผักผลไม้ไทยมีคุณค่าเป็นทั้งอาหารและยา ตอน ยอดฟักทอง
ชื่อภาษาท้องถิ่นว่า มะฟักแก้ว มะนาวแก้ว หมากฟักทอง ฟักเหลือง และฟักทอง
ชื่อภาษาอังกฤษว่า ปั๊มพ์คิน (Pumpkin) คูชอว์วินเทอร์ (Cushaw Winter) และสคอว์ช (Squash)
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า คิวเคอร์บิตา มอสคาต้า (Cucurbita moschata (Decne.) Poir.) จัดอยู่ในวงศ์ คิวเคอร์บิตาซีอี้ (Cucurbitaceae)
ลักษณะ เป็นพืชเถาเลื้อยไปตามพื้นดิน ลำต้นและใบมีขน มีหนวดไว้สำหรับยึดเกาะ ดอกมีสีเหลืองสดใส ผลใช้ปรุงอาหาร จัดเป็นพืชผักสวนครัว
คุณค่าทางโภชนาการคือ ในผลของฟักทองประกอบด้วย เบต้าแคโรทีนสูง (สีเหลือง)คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ (มีมากที่สุด) วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอาซิน และวิตามินซี ส่วนยอดฟักทอง มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีนเหล็ก มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในผลฟักทอง และมีวิตามินเช่นเดียวกันเนื้อในเมล็ดฟักทอง มีสารคิวเคอร์บิติน (cucurbitin) ซึ่งมีฤทธิ์ถ่ายพยาธิ นอกจากนั้นยังมี เปปโนไซด์ (pepponosiide) กรดเอลลาจิก (ellagic) และกรดคิวเคอร์บิก (cucurbic) ในเมล็ดฟักทอง มีน้ำมันร้อยละ 40 มีโปรตีนและฟอสฟอรัสสูง ส่วนในดอกฟักทองจะมีวิตามินเอ แคลเซียม และฟอสฟอรัส
สรรพคุณของฟักทองและวิธีใช้
ส่วนที่ใช้ประโยชน์ของฟักทอง คือ ดอกและยอดฟักทอง เยื่อกลางผล เมล็ด ใบ และราก ซึ่งแต่ละส่วนจะให้สรรพคุณแตกต่างกันดังต่อไปนี้ ค่ะ เนื้อในผลฟักทอง มีวิตามินเอสูงจึงช่วยบำรุงสายตา แก้ไอกรน ช่วยให้มีน้ำนมมาก ใช้แก้และป้องกันโรคเบาหวานเพราะสามารถกระตุ้นการหลั่งของของฮอร์โมนอินซูลินได้ ต้านการเกิดอนุมูลอิสระ นอกจากนี้แล้วยังมีรายงานว่า สามารถใช้แก้อาการปวดท้องอันเนื่องมาจากโรคกระเพาะได้ โดยใช้เนื้อในผลฟักทองมาต้มหรือนึ่ง รับประทาน หรือจะปรุงเป็นอาหารคาว-หวานรับประทานก็ได้ ราก แก้ท้องผูก บำรุงร่างกาย แก้ไอ ดับพิษแมลง สัตว์ กัดต่อย เยื่อกลางผล พอกแก้ฟกช้ำ แก้ปวดอักเสบ เมล็ด ใช้ขับปัสสาวะ ป้องกันและลดการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ขับพยาธิตัวตืด บำรุงร่างกาย แก้พิษปวดบวม บรรเทาอาการต่อมลูกหมากโต กรดเอลลาจิกป้องกันมะเร็งโดยหยุดการทำงานของสารก่อมะเร็ง สำหรับคำแนะนำในการใช้ฟักทองเพื่อขับพยาธิตัวตืด ให้ใช้เมล็ดฟักทองสด 60-90 เมล็ด แกะเอาเฉพาะเนื้อในเมล็ด มารับประทาน หรือจะนำเนื้อในเมล็ดไปบดละเอียด แล้วเติมน้ำตาลเล็กน้อยพร้อมด้วยน้ำสุก 2 แก้ว แล้วนำมาดื่ม 3 ครั้งแต่ละครั้งห่างกัน 2 ชั่วโมง โดยมีข้อแนะนำว่าก่อนใช้ยาถ่ายพยาธิจากฟักทองนี้ จะต้องให้ท้องว่างก่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมง จึงจะให้ประสิทธิภาพในการถ่ายพยาธิได้ดี ดอกและยอดฟักทอง ลวกเป็นผักจิ้ม มีคุณค่าทางอาหารสูง ใช้บำรุงสายตาและกระดูก ยางจากต้นและเถาฟักทอง ใช้แก้พิษผื่นคัน เริม และงูสวัด
อ้างอิงจาก natres.psu.ac.th |